ทริปสั้นๆใกล้บ้านที่ Sofitel Sentosa Resort and Spa
ทริปสั้นๆใกล้บ้านที่ Sofitel Sentosa Resort and Spa
เควินและโจเซลีนเลือกพักผ่อนวันหยุดสุดหรูใกล้บ้านที่ Sofitel Singapore Sentosa Resort & Spa ปรนเปรอตัวเองด้วยทรีทเม้นต์ที่สปาและอาหารชั้นเลิศพร้อมวิวจากบนหน้าผาสูง
เรารักเมืองที่เราอยู่แต่ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่อยากไปพักผ่อนที่อื่นบ้างในบางครั้ง แสงไฟจ้า มองนานๆ ก็ทำให้ตาลายได้เหมือนกัน การใช้เทคโนโลยีไฮเทคมากเกินก็น่าเบื่อ และผู้คนที่เดินสวนกันไปมามากมายอาจทำให้คุณเวียนหัว ในขณะที่เพื่อนๆ หลายคนจากทั่วโลกใฝ่ฝันจะได้เดินทางมาเยี่ยมพวกเราในสิงคโปร์ เราก็ใฝ่ฝันที่จะหลีกหนีไปที่อื่นบ้างเหมือนกัน ในภาวะปัจจุบันการพูดง่ายกว่าการทำ แต่เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งได้พักผ่อนใกล้บ้านเราที่ Sofitel Sentosa Resort & Spa ถึงแม้ว่าเราจะยังอยู่ในสิงคโปร์ แต่ด้วยทำเลที่ตั้งทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ห่างไกลจากความโกลาหลของเมืองใหญ่
เควินจำเป็นต้องไปพักผ่อนบ้างแต่เขาทำงานหนักจนไม่มีเวลา เรามาถึงจุดที่เมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันแนะนำว่าเขาต้องหาเวลาให้ตัวเองบ้าง เขาจะเริ่มอารมณ์เสียและหงุดหงิด ฉันเลยจัดแจงทุกอย่างด้วยตัวเอง ในขณะที่เขากำลังประชุมกับเพื่อนร่วมงานอยู่อีกห้องหนึ่ง ฉันก็ค้นหาข้อเสนอดีๆ จากเว็บไซต์ Accor Plus ตอนแรกฉันก็แค่อยากจะดูว่าเราสามารถหยุดทุกอย่างสักพักได้ไหม แต่เวลาของเรามีน้อยและฉันก็รู้ดีว่าเควินคงไม่ค่อยสบอารมณ์นักถ้าฉันพาเขาไปไหนนานเกินช่วงสุดสัปดาห์ แล้วฉันก็จำได้ว่าเรามีสิทธิ์พักฟรี Stay Plus ที่เรายังไม่ได้ใช้ ฉันเลยรีบคลิกจองทันที ไม่นานนักฉันก็จองวันหยุดใกล้บ้านในฝันของเราที่ Sofitel Singapore Sentosa Resort & Spa
เช้าวันเสาร์ก็มาถึง ฉันบอกให้เควินเก็บกระเป๋าเพราะฉันจองทริปวันหยุดพักผ่อนให้กับเราทั้งคู่เอาไว้ สายตาที่ดูงงๆของเขาน่าขำจริงๆ ฉันต้องรีบกำชับกับเขาว่าให้ใจเย็นๆ เราจะไปกันแค่คืนเดียวเท่านั้นและแน่นอนว่าเขาปฏิเสธไม่ได้ ราวกับว่าเรารอให้ใครสักคนบังคับให้เขาไปเที่ยววันหยุดบ้าง บางทีฉันควรจะรีบดึงตัวเขาไปเที่ยวเร็วกว่านี้นะ
เรามาถึงโรงแรมทันนวดทรีทเม้นต์ So In Love สำหรับคู่รักที่สปาพอดีก่อนที่เราจะได้ทำตัวให้คุ้นชินกับห้องพักเสียอีก การพักผ่อนใกล้บ้านทุกครั้งควรเริ่มต้นด้วยการนวดผ่อนคลายสักสองชั่วโมงครึ่ง ฉันแนะนำให้ไปลองกันนะคะ แผนของฉันได้ผลจริงๆ ถ้าคุณไม่บ้างานจนป่วย คุณต้องหลงรักความสงบในสถานที่แห่งนี้แน่ค่ะ ด้วยทำเลที่ตั้งที่ห่างไกลความจอแจในเมือง รายล้อมไปด้วยสวนเขียวขจี… จนทำให้ตึกสูงระฟ้าในชีวิตประจำวันของเรากลายเป็นภาพความทรงจำลางๆ ไปเลย
ในคืนนั้น ฉันตั้งใจใช้สิทธิพิเศษส่วนลด Accor Plus เพื่อทานอาหารเคล้าวิวพระอาทิตย์ตกดินที่ห้องอาหาร The Cliff ฉันหยอกกับเควินว่านี่ก็ใกล้เคียงกับการไปเที่ยวอิตาลีเหมือนกันนะเพราะอาหารอิตาเลียนที่นี่อร่อยเทียบเท่าต้นตำรับได้เลย น่าแปลกใจที่เควินไม่หยิบมือถือขึ้นมาเช็คดูงานเลยสักครั้งเดียว เราพูดคุยและหัวเราะกันในแบบที่เราไม่ได้ทำมาเนิ่นนานแล้ว ฉากหลังที่เป็นพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้าก็ช่วยได้ไม่น้อย อันที่จริงฉันไม่เห็นเขาควักโทรศัพท์ออกมาเลยตลอดวันนั้นหรือในวันรุ่งขึ้นด้วยซ้ำ ฉันเอามือถือของฉันออกมาใช้แค่ตอนถ่ายเซลฟี่บ้าง แต่นอกเหนือจากนั้น เราตัดขาดจากโลกภายนอกไปเลย แล้วหันมาเชื่อมต่อกันและกันแทน
นั่นคือส่วนที่ดีที่สุดในการพักผ่อนใกล้บ้านในสิงคโปร์ของเรา คือการได้ตระหนักว่ามันสำคัญแค่ไหนที่เราต้องพยายามทำให้เกิดขึ้นซึ่งในท้ายที่สุด เรากลับไม่ต้องใช้ความพยายามมากเท่าไหร่ก็มีความสุขด้วยกันได้ ในครั้งหน้าที่เรารู้สึกว่าต้องหนีออกไปพักผ่อนบ้าง เรารู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไรและเราจะต้องไปที่ไหน อันที่จริง ประสบการณ์จากวันหยุดครั้งนี้ทำให้เราตกหลุมรักเกาะเล็กๆ นี้ที่เราเรียกว่าบ้านยิ่งขึ้นไปอีก